ข้อมูลผลงานนวัตกรรม-
• รายละเอียดของผลงานนวัตกรรม
ประเภทสิ่งประดิษฐ์ : สิ่งประดิษฐ์ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต ปี 2563
กระบกเป็นพืชที่สามารถพบได้ทั่วไป ในเขต ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในประเทศไทย จะพบมากที่สุดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลสดของ กระบก จะมีเนื้อออกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือน พฤษภาคม ทรงกลมรี สีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมื่อสุกผลแห้งภายในเนื้อจะเป็นสีส้ม ชั้นหุ้มเมล็ด เปลือกในแข็ง ภายในจะมีเมล็ดสีขาว 1 เมล็ด รสมัน ประโยชน์ของเมล็ดกระบกด้านสมุนไพรสามารถใช้ ปรุงยาถ่ายพยาธิ บำรุงไขข้อ บำรุงตับ แก้เส้นเอ็นพิการ และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และในด้านการแปรรูปสามารถนำไปใช้ในการทำ เครื่องสำอาง สบู่ สกัดเป็นน้ำมันเมล็ดกระบก และ สามารถนำมาแปรรูปเป็นขนมขบเคี้ยว วิธีการผ่าเม็ดกระบกในปัจจุบัน สามารถทำได้ 2 วิธีได้แก่ การใช้มีดผ่าหรือ ใช้ค้อนทุบให้เปลือกนอกของเม็ดกระบกที่แข็ง แยกออกจากกัน ซึ่งทำให้เกิดอันตรายและก่อให้เกิดอาการเมื่อยล้า แก่ผู้ปฏิบัติงาน จากปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการ จัดทำโครงการวิจัยเรื่องอุปกรณ์ผ่าเม็ดกระบก(มะมื่น) โดยใช้หลักการใช้แรงของคนดันเม็ดกระบกให้ผ่านมีดที่อยู่ด้านข้างทั้งสองด้านผ่าให้เม็ดกระบกแยกออกจากกันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการใช้มืดจับเม็ดกระบกแล้วใช้มีดผ่าซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้มีดบาดมือและเกิดความเมื่อยล้าในการทำงานแต่ละครั้ง การสร้างอุปกรณ์ผ่าเม็ดกระบกช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและส่งเสริมในการรับประทานเม็ดกระบก
อาจารย์ที่ปรึกษา
1. ว่าที่ ร.ต. สุกิจ ขัดชอนใบ
2. นาย ศราวุฒิ วิฬุละหิต
3. นาย ติณณภพ ต๊ะวิชัย
4. นาย จิณณวัตร ดาวหมู่
5. นาย วุฒิชัย ถาน้อย
ผู้ประดิษฐ์
1. นาย จิรเมศร์ ไชยลักขณาวัชร์
2. นาย สุทธิพงษ์ เครื่อสบจาง
3. นาย ธนภูมิ สวยฉลาด
4. นาย ศราวุฒิ ท้าวไชย
5. นาย ณรงค์ศักดิ์ ตื้อใจมา
6. นาย อัครพล การเก่ง
กระบกเป็นพืชที่สามารถพบได้ทั่วไป ในเขต ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในประเทศไทย จะพบมากที่สุดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลสดของ กระบก จะมีเนื้อออกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือน พฤษภาคม ทรงกลมรี สีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมื่อสุกผลแห้งภายในเนื้อจะเป็นสีส้ม ชั้นหุ้มเมล็ด เปลือกในแข็ง ภายในจะมีเมล็ดสีขาว 1 เมล็ด รสมัน ประโยชน์ของเมล็ดกระบกด้านสมุนไพรสามารถใช้ ปรุงยาถ่ายพยาธิ บำรุงไขข้อ บำรุงตับ แก้เส้นเอ็นพิการ และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และในด้านการแปรรูปสามารถนำไปใช้ในการทำ เครื่องสำอาง สบู่ สกัดเป็นน้ำมันเมล็ดกระบก และ สามารถนำมาแปรรูปเป็นขนมขบเคี้ยว วิธีการผ่าเม็ดกระบกในปัจจุบัน สามารถทำได้ 2 วิธีได้แก่ การใช้มีดผ่าหรือ ใช้ค้อนทุบให้เปลือกนอกของเม็ดกระบกที่แข็ง แยกออกจากกัน ซึ่งทำให้เกิดอันตรายและก่อให้เกิดอาการเมื่อยล้า แก่ผู้ปฏิบัติงาน จากปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการ จัดทำโครงการวิจัยเรื่องอุปกรณ์ผ่าเม็ดกระบก(มะมื่น) โดยใช้หลักการใช้แรงของคนดันเม็ดกระบกให้ผ่านมีดที่อยู่ด้านข้างทั้งสองด้านผ่าให้เม็ดกระบกแยกออกจากกันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการใช้มืดจับเม็ดกระบกแล้วใช้มีดผ่าซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้มีดบาดมือและเกิดความเมื่อยล้าในการทำงานแต่ละครั้ง การสร้างอุปกรณ์ผ่าเม็ดกระบกช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและส่งเสริมในการรับประทานเม็ดกระบก
อาจารย์ที่ปรึกษา
1. ว่าที่ ร.ต. สุกิจ ขัดชอนใบ
2. นาย ศราวุฒิ วิฬุละหิต
3. นาย ติณณภพ ต๊ะวิชัย
4. นาย จิณณวัตร ดาวหมู่
5. นาย วุฒิชัย ถาน้อย
ผู้ประดิษฐ์
1. นาย จิรเมศร์ ไชยลักขณาวัชร์
2. นาย สุทธิพงษ์ เครื่อสบจาง
3. นาย ธนภูมิ สวยฉลาด
4. นาย ศราวุฒิ ท้าวไชย
5. นาย ณรงค์ศักดิ์ ตื้อใจมา
6. นาย อัครพล การเก่ง
• ความร่วมมือที่แสวงหา :
ถ่ายทอดเทคโนโลยี, เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
• วันที่เผยแพร่ผลงาน :
15 กันยายน 2564
• ระดับความพร้อมของนวัตกรรม :
TRL-7 นำผลงานไป ทดลองใช้แล้ว
• ความต้องการในการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ :
Directory ประชาสัมพันธ์เท่านั้น
• ราคาของผลงานนวัตกรรม :
ยังไม่ได้กำหนดราคา
สถานที่เยี่ยมชมผลงานนวัตกรรม+
ข้อมูลกรรมสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา+
รายละเอียดเจ้าของข้อมูล+
อุปกรณ์ผ่าเม็ดกระบก(มะมื้น)
TRL 7
• ราคาของผลงานนวัตกรรม : ยังไม่ได้กำหนดราคา
• จุดเด่นของผลงานนวัตกรรม :
อุปกรณ์ผ่าเม็ดกระบกมีความปลอดภัยกว่าการผ่าด้วยมีด อุปกรณ์ผ่าเม็ดกระบกสามารถช่วยผ่อนแรง และลดอุบัติเหตุในการผ่าด้วยมีด

• ชื่อเจ้าของข้อมูล :
สำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา
• ประเภทผลงานนวัตกรรม :
ผลงานนวัตกรรม
• หมวดหมู่นวัตกรรม :
อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
• ระดับนวัตกรรม :
TRL-7 นำผลงานไป ทดลองใช้แล้ว
• ความร่วมมือที่แสวงหา :
ถ่ายทอดเทคโนโลยี, เสาะหาผู้รับอนุญาตใช้สิทธิ
• ความต้องการจำหน่าย :
Directory ประชาสัมพันธ์เท่านั้น
วันที่เผยแพร่: 15 กันยายน 2564
|
ผู้เยี่ยมชม: 368
ผลงานนวัตกรรมที่น่าสนใจ

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf